VIVA IL GELATO!

อากาศเริ่มจะร้อนแล้วนะคะว่ามั้ย แต่จะอากาศแบบไหนก็ยังอยากกินเจลาโต้อยู่ดี วันนี้เรามาพูดถึงไอคอนเบิ้มๆ อีกอันของประเทศรองเท้าบู้ตกันค่ะ Il gelato italiano!

ก่อนอื่นเรามาเคลียร์กันก่อนว่า Gelato กับ Ice cream มันต่างกันยังไง

• สัดส่วนวัตถุดิบต่างกัน เจลาโต้มีส่วนผสมหลักเป็นนม ในขณะที่ไอศกรีมมีครีมหรือไขมันจากนมมากกว่า ดังนั้นกินเจลาโต้แล้วอ้วนน้อยกว่า! (แต่ถ้ากินไม่หยุดก็ไม่ช่วยนะ)

• ในการปั่นเจลาโต้จะใช้ความเร็วน้อยกว่า ทำให้ในเจลาโต้มีอากาศเข้าไปแค่ 25% เท่านั้น ส่วนไอศกรีมจะมีอากาศอยู่ถึง 50% ทำให้มีความแข็งมากกว่าเจลาโต้

• เจลาโต้จะถูกแช่ที่อุณหภูมิสูงกว่าที่ 6-8˚c สังเกตได้ว่าเจลาโต้จะมีเนื้อสัมผัสที่เหลวกว่า ในขณะที่ไอศกรีมจะปั้นเป็นลูกกลมๆ ได้ง่าย แต่ความที่อุณหภูมิตอนเสิร์ฟไม่เย็นเท่า ทำให้ลิ้นสามารถรับรสของเจลาโต้ได้เต็มอิ่มกว่าด้วย

ต้นกำเนิดแห่งความอร่อย

จากข้อมูลของ สถาบันเจลาโต้แห่งอิตาลี (https://www.istitutodelgelato.it/) กล่าวไว้ว่า ของหวานที่เป็น “น้ำแข็ง” กับ “นม” นั้นเคยถูกพูดถึงตั้งแต่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลแล้ว (อิสอัคมอบนมแพะผสมหิมะให้อับราฮัม) ในยุคโรมันก็มีของหวานที่น่าจะมีลักษณะคล้ายๆ กัน เรียกว่า nivatae potions ในซิซิลียุคที่ถูกครอบครองโดยอาหรับก็มีขนมที่เอาหิมะจากภูเขาเอตนามาผสมกับน้ำผลไม้เป็น granita หรือ sorbetto

ถ้าจะหาเวอร์ชั่นที่ใกล้เคียงกับเจลาโต้ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันมากที่สุด ต้องย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 16 ที่เมืองฟิเรนเซ สถาปนิกนามว่า แบร์นาโด บูอันตาเลนติ ได้ประดิษฐ์เครื่องปั่น sorbetto ขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ในงานเลี้ยงของพวกเมดิชี บ้างก็ว่าที่นี่เองที่เริ่มมีการผสมนมเข้าไปจนเกิดเป็นเจลาโต้

แต่ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นคนคิดค้นเจลาโต้ที่แท้จริงคือ เชฟจากซิซิลีชื่อ โปรโกปิโอ กูโตะ ซึ่งได้รับมรดกเป็น gelattiere หรือเครื่องทำไอศกรีมที่ปู่ของเขาคิดค้นขึ้นมา เมื่อย้ายไปอยู่ปารีส เขาเปิดคาเฟ่ชื่อ Café Procope และเริ่มขายเจลาโต้จนโด่งดัง ในบรรดาลูกค้าของโปรโกปิโอมีแต่คนดังระดับโลก เช่น Robespierre, Victor Hugo, Balzac, Voltaire, Oscar Wilde, Benjamin Franklin และ Napoleon Bonaparte เป็นต้น

Café Procope ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น Café แห่งแรกในโลกด้วยนะคะ

รสไหนโดนใจเธอ

คนอิตาลีชอบกินเจลาโต้รสไหนที่สุด ข้อมูลที่หาได้มาจากปี 2019 (www.fipe.it) อาจจะเก่าไปสักนิด แต่คงไม่คลาดเคลื่อนกันมากหรอกเนอะ

และสามอันดับยอดฮิตคือ…..

Cioccolato – ช็อคโกแล็ต
Nocciola – เฮเซลนัท
Pistacchio – ถั่วพิชตาชิโอ

นั่นเองค่า!

ส่วนรสอื่นๆ ที่มีมักจะมีขายทั่วไปก็ตามนี้ค่ะ แอดมินลิสต์มาให้บางส่วนเป็นภาษาอิตาลี คราวหน้าไป Gelateria จะได้ไปยืนสั่งอย่างโปร

Fragola – สตรอเบอร์รี่
Limone – มะนาวเลมอน
Fior di latte – รสนมวัว ชีสแบบมอสซาเรลลาที่ใช้นมวัวแทนนมควายก็เรียกว่า Fior di latte เหมือนกัน
Stracciatella – Fior di latte ผสมช็อคโกแล็ตเป็นชิ้นๆ
Bacio – มาจากช็อคโกแล็ตชื่อดัง Baci Perugina ที่ข้างในมีไส้เฮเซลนัท
Zuppa Inglese – เจลาโต้รสเดียวกับขนมอิตาลีที่ประกอบด้วยสปันจ์เค้กและคัสตาร์ด
Frutti di bosco – แปลตามตัวว่า ผลไม้แห่งป่า หมายถึงพวกเบอร์รี่ 

เวลาสั่งเจลาโต้ เราจะต้องเลือกว่า จะเอาแบบใส่ถ้วยหรือใส่โคน ถ้าใส่ถ้วยก็ต้องบอกว่าขอ “una coppetta di….” ตามด้วยรสอะไรก็ว่าไป ส่วนโคนเจลาโต้ ภาษาอิตาลีก็เรียกง่ายๆ ว่า “cono” ตามร้านต่างๆ มักจะมีไซส์เล็กใหญ่มาให้เลือกตามความอยาก

ทางใต้ของอิตาลี โดยเฉพาะที่เกาะซิซิลี นิยมเอาขนมปังกลมๆ มาผ่าครึ่งแล้วปาดเจลาโต้ลงไปเหมือนแซนด์วิชเจลาโต้ เรียกว่า “Brioche con gelato” บางคนเค้าทานแบบนี้กันเป็นมื้อเช้าเลยทีเดียว

อย่างที่บอกไปว่า เนื้อสัมผัสของเจลาโต้จะมีความหนืดเหลวมากกว่าไอศกรีมทั่วไป ดังนั้นอาวุธในการคว้านเจลาโต้ขึ้นมาใส่ในภาชนะที่เราเลือกจะมีลักษณะเป็นช้อนสำหรับปาด ที่ชื่อว่า spatula 

Leave a Comment

พิ้นที่สำหรับคนรักอิตาลี!